พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2025 อุปมาเรื่องเศรษฐีโง่เขลาและความโลภ

          ประชาชนคนหนึ่งทูลพระเยซูเจ้าว่า ‘พระอาจารย์ โปรดบอกพี่ชายข้าพเจ้าให้แบ่งมรดกให้ข้าพเจ้าเถิด’ พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า ‘มนุษย์เอ๋ย ใครตั้งเราเป็นผู้พิพากษาหรือเป็นผู้แบ่งมรดกของท่าน แล้วพระองค์ตรัสกับคนเหล่านั้นว่า ‘จงระวังและรักษาตัวไว้ให้พ้นจากความโลภทุกชนิด เพราะชีวิตของคนเราไม่ขึ้นกับทรัพย์สมบัติของเขา แม้ว่าเขาจะมั่งมีมากเพียงใดก็ตาม’ พระองค์ยังตรัสอุปมาเรื่องหนึ่งให้เขาทั้งหลายฟังอีกว่า ‘เศรษฐีคนหนึ่งมีที่ดินที่เกิดผลดีอย่างมาก เขาจึงคิดว่า “ฉันจะทำอย่างไรดี ฉันไม่มีที่พอจะเก็บพืชผลของฉัน” เขาคิดอีกว่า “ฉันจะทำอย่างนี้ จะรื้อยุ้งฉางเก่าแล้วสร้างใหม่ให้ใหญ่โตกว่าเดิม จะได้เก็บข้าวและสมบัติทั้งหมดไว้ แล้วฉันจะพูดกับตนเองว่า “ดีแล้ว เจ้ามีทรัพย์สมบัติมากมายเก็บไว้ใช้ได้หลายปี จงพักผ่อน กินดื่มและสนุกสนานเถิด” แต่พระเจ้าตรัสกับเขาว่า “คนโง่เอ๋ย คืนนี้ เขาจะเรียกเอาชีวิตเจ้าไป แล้วสิ่งที่เจ้าได้เตรียมไว้จะเป็นของใครเล่า คนที่สะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตนเองแต่ไม่เป็นคนมั่งมีสำหรับพระเจ้า ก็จะเป็นเช่นนี้”
(ลูกา 12:13-21)








วันพฤหัสบดีที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2568

สวดภาวนาเพื่อวิญญาณในไฟชำระทุกวัน


ชายหนุ่มคนหนึ่งชื่อปีเตอร์  เขาออกจากบ้านเกิดของเขาที่โปรตุเกสและกำลังเดินทางไปอินเดีย เรือของเขาถูกพายุพัดกระหน่ำ ปีเตอร์จึงอธิษฐานภาวนาและสัญญากับพระเจ้าว่าหากพระองค์ทรงช่วยเขาจากการจมน้ำ เขาจะรับใช้พระองค์ในฐานะนักบวช ในที่สุดเขาก็มาถึงเมืองกัว เขาก็ไปพบกับพระสงฆ์คณะเยสุอิตที่นั่น

แต่เขาเกิดในโปรตุเกสในตระกูลขุนนางที่มีชื่อเสียง - ตระกูลมาชาโด - และตระกูลนี้มีชื่อเสียงมากจนเป็นที่รู้จักไปทั่วทั้งอินเดีย เมื่อเขาแนะนำตัวกับพระสงฆ์ซึ่งจะเป็นอธิการของเขาในคณะเยซูอิต เขาไม่ได้บอกชื่อนามสกุลจริงของเขาเพราะกลัวว่าท่านอธิการจะให้สิทธิพิเศษและความสนใจพิเศษแก่เขาเนื่องจากเขามีสายเลือดโดยตรงของตระกูล ปีเตอร์จึงบอกชื่อเมือง - เดอ บาสโต - เมืองที่เขารับศีลล้างบาปแทน ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา เขาถูกเรียกว่า "ปีเตอร์ เดอ บาสโต"

ปีเตอร์สวดสายประคำทุกวันเพื่อวิญญาณในไฟชำระ แต่มีอยู่วันหนึ่ง เขาไม่ได้สวดภาวนา เขาละเลยที่จะสวด และคืนนั้นเขารู้สึกว่าไปอยู่ที่ดินแดนแห่งหนึ่ง แต่ทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์ของเขาปลุกเขาและกล่าวว่า "ลูกเอ๋ย วิญญาณในไฟชำระกำลังรอคอยผลประโยชน์จากการทำทานประจำวันของลูก" ปีเตอร์หยิบสายประคำของเขาขึ้นมาและสวดภาวนาให้ดวงวิญญาณในไฟชำระตามที่ทูตสวรรค์ผู้พิทักษ์ของเขาบอกให้เขาสวดภาวนาต่อพระแม่มารีย์

ปีเตอร์สวดสายประคำให้วิญญาณในไฟชำระทุกวัน ไม่ใช่แค่ในเดือนพฤศจิกายนเท่านั้นที่ผู้คนต่างให้ความสนใจในการสวดภาวนาเพื่อผู้ล่วงลับ นี่เป็นบทเรียนสำหรับหลายคนที่ขี้เกียจสวดภาวนา เราสามารถสวดสายประคำเพื่อดวงวิญญาณในไฟชำระได้หลายครั้งในหนึ่งปี บางทีอาจถึงวันละสายก็ได้ และเพื่อเป็นการตอบแทน,เราอาจได้รับความช่วยเหลือจากวิญญาณเหล่านั้น พวกเขาอาจวิงวอนขอแทนเราในบางอย่างที่จำเป็นสำหรับเรา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น