เราอยู่กับท่านทุกวัน รอให้ท่านมาเยี่ยมเรา....อ่านต่อ
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2025 ปีศาจมาประจญพระเยซูเจ้า
  พระเยซูเจ้าทรงได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยมทรงพระดำเนินจากแม่น้ำจอร์แดน พระจิตเจ้าทรงนำพระองค์ไปยังถิ่นทุรกันดาร ทรงถูกปีศาจผจญเป็นเวลาสี่สิบวัน ตลอดเวลานั้นพระองค์มิได้เสวยสิ่งใดเลย ในที่สุด ทรงหิว ปีศาจจึงทูลพระองค์ว่า “ถ้าท่านเป็นบุตรพระเจ้า จงสั่งให้หินก้อนนี้กลายเป็นขนมปังเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่ามนุษย์มิได้ดำรงชีวิตด้วยอาหารเท่านั้น” ปีศาจจึงนำพระองค์ไปยังที่สูงแห่งหนึ่ง แสดงให้พระองค์ทอดพระเนตรอาณาจักรต่าง ๆ ของโลกทั้งหมดในคราวเดียว และทูลพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าจะให้อำนาจและความรุ่งเรืองของอาณาจักรเหล่านี้ทั้งหมดแก่ท่าน เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะให้ผู้ใดก็ได้ตามความปรารถนา ดังนั้น ถ้าท่านกราบนมัสการข้าพเจ้า ทุกสิ่งจะเป็นของท่าน” พระเยซูเจ้าตรัสตอบปีศาจว่า “มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า
  ‘จงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และรับใช้พระองค์แต่ผู้เดียวเท่านั้น’”
  ปีศาจนำพระองค์ไปยังกรุงเยรูซาเล็ม วางพระองค์ลงที่ยอดพระวิหาร แล้วทูลว่า “ถ้าท่านเป็นบุตรของพระเจ้า จงกระโจนลงไปเบื้องล่างเถิด เพราะมีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า ‘พระเจ้าจะทรงสั่งทูตสวรรค์ให้พิทักษ์รักษาท่าน’ และยังมีเขียนอีกว่า ‘ทูตสวรรค์จะคอยพยุงท่านไว้มิให้เท้ากระทบหิน’” แต่พระเยซูเจ้าตรัสตอบปีศาจว่า มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “อย่าทดลององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเลย” เมื่อปีศาจทดลองพระองค์ทุกวิถีทางแล้ว จึงแยกจากไป
(ลูกา 4:1-13)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคม 2025 ปีศาจมาประจญพระเยซูเจ้า
  พระเยซูเจ้าทรงได้รับพระจิตเจ้าเต็มเปี่ยมทรงพระดำเนินจากแม่น้ำจอร์แดน พระจิตเจ้าทรงนำพระองค์ไปยังถิ่นทุรกันดาร ทรงถูกปีศาจผจญเป็นเวลาสี่สิบวัน ตลอดเวลานั้นพระองค์มิได้เสวยสิ่งใดเลย ในที่สุด ทรงหิว ปีศาจจึงทูลพระองค์ว่า “ถ้าท่านเป็นบุตรพระเจ้า จงสั่งให้หินก้อนนี้กลายเป็นขนมปังเถิด” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่ามนุษย์มิได้ดำรงชีวิตด้วยอาหารเท่านั้น” ปีศาจจึงนำพระองค์ไปยังที่สูงแห่งหนึ่ง แสดงให้พระองค์ทอดพระเนตรอาณาจักรต่าง ๆ ของโลกทั้งหมดในคราวเดียว และทูลพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าจะให้อำนาจและความรุ่งเรืองของอาณาจักรเหล่านี้ทั้งหมดแก่ท่าน เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าจะให้ผู้ใดก็ได้ตามความปรารถนา ดังนั้น ถ้าท่านกราบนมัสการข้าพเจ้า ทุกสิ่งจะเป็นของท่าน” พระเยซูเจ้าตรัสตอบปีศาจว่า “มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า
  ‘จงกราบนมัสการองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่าน และรับใช้พระองค์แต่ผู้เดียวเท่านั้น’”
  ปีศาจนำพระองค์ไปยังกรุงเยรูซาเล็ม วางพระองค์ลงที่ยอดพระวิหาร แล้วทูลว่า “ถ้าท่านเป็นบุตรของพระเจ้า จงกระโจนลงไปเบื้องล่างเถิด เพราะมีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า ‘พระเจ้าจะทรงสั่งทูตสวรรค์ให้พิทักษ์รักษาท่าน’ และยังมีเขียนอีกว่า ‘ทูตสวรรค์จะคอยพยุงท่านไว้มิให้เท้ากระทบหิน’” แต่พระเยซูเจ้าตรัสตอบปีศาจว่า มีเขียนไว้ในพระคัมภีร์ว่า “อย่าทดลององค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านเลย” เมื่อปีศาจทดลองพระองค์ทุกวิถีทางแล้ว จึงแยกจากไป
(ลูกา 4:1-13)
วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2558
วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2558
พระดำรัสขององค์ราชินี
พระดำรัสขององค์ราชินี (พระนางพรหมจารีย์มารีย์ตรัสกับซิสเตอร์มารีย์แห่งอะกริดา
สเปน)
พระเป็นเจ้าทรงมีพระทัยเมตตาต่อมนุษย์ยิ่งนัก
พระองค์ทรงสร้างมนุษย์ให้มีสติปัญญาที่จะพิจารณาเหตุผล เพื่อที่มนุษย์จะได้ใช้สติปัญญานั้นในการพิจารณาไตร่ตรองเหตุผลซึ่งจะช่วยเขาให้สามารถพบพระองค์ได้
เมื่อรู้จักพระองค์แล้วมนุษย์ก็จะเริ่มรักพระองค์ เคารพนับถือและเทิดทูนพระองค์ในฐานะพระผู้สร้างและพระเจ้าที่แท้จริงเพียงหนึ่งเดียว บิดามารดาจึงต้องสั่งสอนลูกๆของตนตั้งแต่เขายังเป็นเด็กบริสุทธิ์ไร้เดียงสา
ให้พวกเขามีความรู้ถึงพระเป็นเจ้าและต้องให้คำแนะนำสั่งสอนแก่พวกเขาด้วยความเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพื่อที่บรรดาลูกๆจะได้รู้จักและแสวงหาพระเป็นเจ้าผู้ทรงเป็นจุดหมายปลายทางของชีวิตเป็นอันดับแรกอย่างเต็มกำลังและน้ำใจของพวกเขา
บิดามารดาต้องเฝ้าดูแลเอาใจใส่ในลูกของตนอย่างเต็มที่
เพื่อทำให้พวกเขาหลุดพ้นจากนิสัยที่ไม่ดีตามประสาเด็ก ซึ่งเป็นธรรมชาติด้านลบ
อันอาจทำให้พวกเขาหลงไปในทางที่ผิดถ้าไม่รีบกำจัดเสียแต่ต้น
ถ้าบิดามารดาจะเอาใจใส่และป้องกันนิสัยที่ไม่ดีต่างๆของลูกของพวกเขาและสั่งสอนลูกๆตั้งแต่ยังอยู่ในวัยที่บริสุทธิ์ไร้เดียงสาให้มีความรู้ในพระเป็นเจ้าในฐานะพระผู้สร้างแล้วละก็
บรรดาลูกๆของเขาก็จะคุ้นเคยที่จะรู้จักและสรรเสริญพระเป็นเจ้า ท่านมารดาของแม่เอง(นักบุญอันนา)
ถึงแม้ท่านจะไม่รู้ถึงพระหรรษทานยิ่งใหญ่ที่พระเป็นเจ้าทรงประทานแก่แม่
แต่ท่านก็เอาใจใส่สั่งสอนแม่ในเรื่องนี้ตั้งแต่แรกเริ่ม เมื่อเริ่มแรกที่ท่านตั้งครรภ์แม่นั้น ท่านสรรเสริญพระเป็นเจ้าด้วยนามของแม่ ท่านนมัสการขอบพระคุณพระเป็นเจ้าที่ทรงสร้างแม่ขึ้นมา
ท่านวอนขอให้พระองค์ปกปักรักษาแม่และนำแม่ไปสู่แสงสว่างของพระองค์
ดังนั้นบิดามารดาจึงควรสวดภาวนาด้วยสิ้นสุดจิตใจต่อพระเป็นเจ้า สำหรับจิตวิญญาณของลูกของเขา วอนขอให้พระญาณเอื้ออาทรของพระเป็นเจ้าได้โปรดชำระล้างบาปของพวกเขาและทำให้ลูกๆของเขาเป็นอิสระจากการเป็นทาสของบาปกำเนิด
แต่ถ้าหากมนุษย์ผู้ใดไม่รู้จักและสรรเสริญพระผู้สร้างของเขาตั้งแต่เวลาที่เขายังเป็นเด็กไม่รู้ความ
เขาผู้นั้นควรได้รับความรู้ในพระเป็นเจ้าทันทีเท่าที่จะทำได้เมื่อเขาเติบโตแล้ว โดยอาศัยแสงสว่างแห่งความเชื่อ
และเมื่อเขาได้รับความรู้ในพระเป็นเจ้าแล้ว วิญญาณนั้นต้องกระทำอย่างเต็มความสามารถเพื่อที่เขาจะไม่มีวันสูญเสียพระเป็นเจ้าไป เขาต้องมองดู
ฟัง รัก และสรรเสริญพระองค์เสมอ
วันศุกร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558
คุณแม่เทเรซาแห่งกัลกัตตา
คุณแม่เทเรซาเกิดวันที่ 26 ส.ค. 1910
ที่ประเทศอัลบาเนีย
รูปภาพ 8 รูป คลิ๊กเพื่อดูภาพขยาย
รูปภาพ 8 รูป คลิ๊กเพื่อดูภาพขยาย
1. ซิสเตอร์ในคณะมิชชันนารีแห่งเมตตาธรรม ได้มาร่วมพิธีมิสซาระลึกถึง 105
ปีวันเกิดคุณแม่เทเรซาที่บ้านของคณะในกัลกัตตา ประเทศอินเดีย วันที่ 26 ส.ค. 2015 / AFP -
Getty Images
2. ชายคนหนึ่งกำลังสวดภาวนาที่แท่นรูปของคุณแม่เทเรซาบนเทียน
Rupak De Chowdhuri / Reuters
3. ซิสเตอร์ชาวอินเดียกำลังร่วมพิธีมิสซา คุณแม่เทเรซาได้รับการสถาปนาเป็นบุญราศีโดยพระสันตปาปายอห์นปอลที่
2 . Dibyangshu Sarkar / AFP - Getty Images
4. รูปปั้นของคุณแม่เทเรซาผลิตเพื่อขายในวันก่อนวันทำพิธี. Piyal
Adhikary / EPA
5. ชาวอินเดียนำดอกไม้มาวางไว้ที่หลุมฝังศพของคุณแม่เทเรซาหลังจากเสร็จพิธีมิสซาแล้วDibyangshu
Sarkar / AFP - Getty Images
6. การสวดภาวนาในระหว่างพิธีรำลึกถึงคุณแม่เทเรซา
Piyal Adhikary / EPA
7. แม่ชีและผู้มาร่วมพิธีสวดภาวนาที่หลุมฝังศพของคุณแม่
คุณแม่เทเรซาเริ่มงานแพร่ธรรมให้กับคนยากจนในกัลกัตตาในปี 1948 และได้รับรางวัลโนเบลในปี 1979 Piyal
Adhikary / EPA
วันพฤหัสบดีที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2558
โอเมก้า 3
น้ำมันปลาเริ่มเป็นที่สนใจมาประมาณ
30 ปี เมื่อมีข้อมูลว่าชาวเอสกิโม ที่บริโภคปลาในปริมาณสูง
จะมีปัญหาเส้นเลือดอุดตันน้อย ระดับไขมันในเลือดต่ำ
และการเกาะตัวของเกล็ดเลือดน้อยกว่าชาวเดนมาร์กซึ่งกิน เนื้อสัตว์มากกว่า
นอกจากนี้ ยังพบว่าชาวญี่ปุ่นในหมู่บ้านชาวประมง ที่บริโภคปลาในปริมาณมาก
จะมีโรคหลอดเลือดหัวใจ
การเกาะตัวของเกล็ดเลือดและความหนืดของเลือดน้อยกว่าชาวญี่ปุ่นในหมู่บ้านที่เลี้ยงสัตว์
กลุ่มกรดไขมันที่เรียกว่า
โอเมก้า 3 คือ ไขมันไม่อิ่มตัวชนิดหนึ่ง พบมากในปลาทะเลน้ำลึก เป็นไขมันจำเป็น
ต้องได้รับจากอาหาร เนื่องจากร่างกายสร้างขึ้นเองไม่ได้ สารอาหารที่สำคัญมี 2
ชนิด คือ อีพีเอ และ ดีเอชเอ ปลาทะเลน้ำลึก ที่ให้สารอาหารโอเมก้า 3
ได้แก่ ปลาซาร์ดีน ปลาเฮอร์ริ่ง ปลาแมคเคอเรล ปลาแซลมอน และปลาทูน่า
ปลาในอ่าวไทย ที่มีปริมาณโอเมก้า 3 สูง ได้แก่ ปลาทู
และที่มีในปริมาณน้อย ถึงปานกลาง ได้แก่ ปลาอีกา ปลากะพง ปลาตาเดียว ส่วน
ปลาน้ำจืดบางชนิด เช่น ปลาช่อน ปลานวลจันทร์ จะพอมีโอเมก้า 3 บ้าง ซึ่งมากกว่าปลาน้ำจืดอื่นๆ
สำหรับความสำคัญของโอเมก้า
3 ในเด็ก กรด DHA มีความสำคัญต่อการเจริญพัฒนาสมองและดวงตาของเด็กทารก
โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนก่อนคลอด การขาดของ DHA จะมีความสัมพันธ์กับโรคสมาธิสั้น โดยเด็กที่มีระดับ DHA ต่ำจะมีปัญหาด้านพฤติกรรม อารมณ์
การนอนและการเรียนรู้มากกว่าเด็กกลุ่มที่มีระดับ DHA ปกติ
และเมื่อได้รับ DHA เสริม อาการต่าง ๆ จะดีขึ้น
ส่วนความสำคัญของโอเมก้า
3 ในผู้ใหญ่และคนสูงอายุ จะช่วยลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด
และเพิ่มระดับไขมันชนิดดีซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหลอดเลือดได้
ลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ทำให้เกิดลิ่มเลือดอุดตันได้ยากขึ้น
ช่วยลดความดันโลหิตได้เล็กน้อย ลดอุบัติการของโรคหลอดเลือดหัวใจ
จากการลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด ป้องกันโรคความจำเสื่อม
ชะลอหรือป้องกันการเจริญของเซลล์มะเร็ง
นอกจากโอเมก้า
3 แล้ว ปลายังเป็นแหล่งโปรตีนคุณภาพดี ย่อยง่าย และในปลาทะเลยังมีไอโอดีน
ซึ่งช่วยป้องกันปัญหาเรื่องคอพอก และช่วยการเจริญพัฒนาของสมองเด็กในช่วงปีแรกด้วย
ข้อควรระวังในการกินโอเมก้า
3 เนื่องจากน้ำมันปลาลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือด
ดังนั้นการกินปลาในปริมาณมากต่อเนื่องกัน หรือกินผลิตภัณฑ์เสริมอาหารน้ำมันปลา
จะทำให้มีปัญหาเรื่องเลือดออกหยุดยากโดยเฉพาะหากกินร่วมกับยาต้านเกล็ดเลือด เช่น
แอสไพรินหรือโคลพิโดเกรล
หาก
กินปลาทะเลมากกว่า 8 ครั้งต่อสัปดาห์ นอกจากจะมีปัญหาเรื่องเลือดหยุดยากแล้ว
ยังจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานลดลงด้วย
สิ่งที่ควรระวังอีกอย่างในการบริโภคปลาทะเลปริมาณมาก คือ การปนเปื้อนโลหะหนัก
โดยเฉพาะสารปรอท ดังนั้นหากบริโภคมากเกินไป จะเกิดการสะสมและเป็นพิษได้
ขอขอบคุณข้อมูลจาก• รศ.พญ.ปรียานุช แย้มวงศ์ (www.index2you.com)
วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2558
สาส์นแม่พระ 2 - 25 ส.ค. 2015
ลูกที่รักทั้งหลาย
ในวันนี้แม่เรียกร้องพวกลูกให้สวดภาวนา
ขอให้การสวดภาวนาของลูกเป็นเหมือนปีกที่พาลูกโบยบินไปพบพระเป็นเจ้า
ขอให้การสวดภาวนาของลูกเป็นเหมือนปีกที่พาลูกโบยบินไปพบพระเป็นเจ้า
โลกกำลังอยู่ในช่วงเวลาแห่งการทดลอง เพราะมันได้หลงลืมและละทิ้งพระเป็นเจ้า
เพราะฉะนั้นพวกลูก, ลูกน้อยทั้งหลาย,
จงเป็นผู้ที่แสวงหาและรักพระเป็นเจ้าเหนือสิ่งอื่นใด
แม่อยู่กับพวกลูกและแม่จะนำทางลูกไปหาองค์พระบุตรของแม่ แต่ลูกต้องตอบรับ “ค่ะ/ครับ”
กับแม่ด้วยจิตใจอิสระในฐานะบุตรของพระเจ้า
แม่เข้ามาแทรกแซงช่วยเหลือลูกและแม่รักลูกผู้เป็นลูกน้อยๆด้วยความรักอันไม่มีที่สิ้นสุด
ขอขอบใจที่ตอบสนองเสียงเรียกของแม่
(“เป็นบุญของผู้ที่ยืนหยัดอย่างมั่นคงในวันเวลาแห่งการทดลอง เขาได้พิสูจน์ตัวเอง และจะได้รับรางวัลแห่งชีวิตในชัยชนะของเขา พระคริสต์ทรงสัญญาจะประทานมงกุฎแก่ผู้ที่รักพระองค์”
ยากอบ 1:12 )
แม่ในฐานะมารดาที่รักลูก แม่มองเห็นความยากลำบากในยุคนี้ของพวกลูก
แม่มองเห็นความทุกข์ของพวกลูก แต่ลูกพึงรู้ว่าลูกไม่ได้อยู่เพียงลำพัง
องค์พระบุตรของแม่อยู่กับพวกลูกด้วย
พระองค์ทรงอยู่ทุกหนแห่ง
พระองค์ไม่อาจมองเห็นได้ แต่ลูกสามารถมองเห็นพระองค์ถ้าลูกดำรงชีวิตอยู่ในพระองค์
พระองค์ทรงเป็นแสงสว่างที่ส่องสว่างในวิญญาณของลูกและประทานสันติสุขให้แก่ลูก
พระองค์คือพระศาสนจักรซึ่งลูกจักต้องรักและสวดภาวนาปกป้องไว้เสมอ – มิใช่ด้วยคำพูดเท่านั้นแต่ด้วยกิจการแห่งความรัก
ลูกทั้งหลายของแม่ จงทำให้ทุกคนมารู้จักองค์พระบุตรของแม่เถิด เพื่อที่พระองค์จะได้รับความรัก เพราะความจริงอยู่ในองค์พระบุตรผู้ทรงกำเนิดจากพระเป็นเจ้า – พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า
จงอย่าปล่อยเวลาให้เสียไปในการครุ่นคิดมากนัก จะทำให้ลูกอยู่ห่างไกลจากความจริง
จงยอมรับพระวาจาของพระองค์ด้วยใจซื่อๆและดำรงชีวิตด้วยพระวาจา ถ้าลูกดำรงชีวิตด้วยพระวาจาของพระองค์ ลูกจะสวดภาวนา
ถ้าลูกดำรงชีวิตด้วยพระวาจาของพระองค์ ลูกจะรักด้วยความรักอันเมตตา ลูกจะรักซึ่งกันและกัน
ยิ่งลูกรักมากเท่าไร ลูกยิ่งอยู่ห่างไกลจากความตาย
เพราะผู้ที่ดำรงชีวิตด้วยพระวาจาขององค์พระบุตรของแม่และผู้ที่มีความรัก ความตายจะกลายเป็นชีวิต
ขอขอบใจลูก
จงสวดภาวนาเพื่อที่ลูกจะสามารถมองเห็นองค์พระบุตรในตัวนายชุมพาบาลของลูก
จงสวดภาวนาเพื่อที่ลูกจะสามารถโอบกอดพระองค์ได้ในพวกท่านทดสอบความรู้ภาษาลาติน
ทดสอบความรู้ภาษาลาติน ลองดูซิว่าแต่ละข้อคุณรู้หรือไม่ว่าภาษาลาตินนี้แปลว่าอะไร
1 "Dóminus vobíscum."May the Lord be praised.
The Lord be with you.
May the Lord bless you.
Lord, have mercy.
2 “Laus tibi, Christe."
Praise to you, Christ.
Praise God, you Christian.You praised God, St. Christopher.
Have mercy on us, Christ.
3 “Sursum corda."
Lift up your hearts.
Let us pray.
Gives thanks in your heart.
Hosanna in the highest.
4 “Orémus."
God be praised.
The Mass is over.
And with your spirit.
Let us pray.
5 “Et cum spíritu tuo."
And with the Holy Spirit.
And with your spirit.
It is right and just.
And also with you.
6 “Hoc est enim corpus meum.
This is our holy prayer.
For this is a symbol of my body.
For this is my blood.
For this is my body
7 “Pater, peccavi."
Father, I have sinned.
Father, forgive me.
Father, have mercy.
Father, be praised.
8 “Vita mutatur, non tollitur."
Life is changed, not taken away
The beginning of life, not the end.
Change is life, and never ends.
Life is for others, not for ourselves.
9 “Et salutáre tuum da nobis. "
And with your spirit.
Go forth, the Mass is ended.
And we shall praise God.
And grant us your salvation.
10 “Sed líbera nos a malo."
Flee from the evil one.
But deliver us from evil.
But our liberty is wrong.
Lead us not into temptation.
วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2558
ความจริงเกี่ยวกับพระนางมารีย์
พระนางมารีย์ทรงเป็นพระมารดาของพระเป็นเจ้าหรือไม่?
ตอบ – ใช่
เพราะนักบุญอลิซาเบ็ทได้เรียกพระนางว่า “พระมารดาของพระเป็นเจ้าของข้าพเจ้า” ซึ่งปรากฏอยู่ในพระวรสาร ลูกา 1: 43 พระเยซูเจ้าทรงเป็นพระเป็นเจ้า (ฮีบรู 1: 8) และพระนางมารีย์ทรงเป็นพระมารดาของพระองค์ เพราะฉะนั้นพระนางมารีย์จึงเป็นพระมารดาของพระเป็นเจ้า
(พระบุตร) เพราะพระเยซูเจ้าทรงเป็นทั้งพระเป็นเจ้าและมนุษย์จากพระครรภ์ของพระนางมารีย์
พระนางมารีย์ทรงเป็นพรหมจารีย์อตลอดชีวิตของพระนางหรือไม่?
ตอบ – ใช่
พระนางทรงเป็นพรหมจารีย์ตลอดชีวิตของพระนาง
เพราะใน เอเซเคียล 44:2 กล่าวไว้ว่า “ประตู” ที่พระเป็นเจ้าทรงผ่านจะถูกปิดสำหรับผู้อื่น สำหรับคำในพระวรสารที่กล่าวถึง “ลูกพี่ลูกน้อง”
ของพระเยซูเจ้านั้น
หมายถึงญาติพี่น้องของพระองค์ แต่ไม่ใช่ลูกคนอื่นๆของ น.ยอแซฟ เพราะในภาษาอาราเมอิกซึ่งใช้ในการเขียนพระคัมภีร์นั้น ไม่มีคำว่า “ลูกพี่ลูกน้อง”
อันหมายถึงลูกคนอื่นๆจากพ่อคนเดียวกัน
นอกจากนี้
ในพระคัมภีร์ยังพูดถึงพระเยซูเจ้าว่า เป็นบุตรคนเดียวของพระนางมารีย์
(ภาษาอังกฤษมีคำว่า “the” นำหน้า – the son of Mary) ไม่ได้ใช้คำว่า “ลูกคนหนึ่ง” (
มีคำว่า “a” นำหน้า – a son of Mary)
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)