กุมารน้อยบังเกิดแล้ว พระเป็นเจ้าเสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์
และประทับอยู่ท่ามกลางเรา
ในวันนี้พระเป็นเจ้าทรงเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างพระองค์เองกับมนุษยชาติ เป็นสัมพันธ์นิรันดร และพระองค์ทรงทำให้สัมพันธ์นี้มั่นคงยิ่งขึ้นไปอีก
ด้วยการทนรับทรมานและสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ด้วยพระชนม์ชีพทั้งหมดของพระองค์ ตั่งแต่การบังเกิด การเทศนาสั่งสอน การรับทรมานและสิ้นพระชนม์ การกลับคืนพระชนม์ชีพ ทั้งหมดนี้เป็นการบอกเราว่า สัมพันธ์ของพระองค์กับมนุษย์นั้นจะไม่มีการแตกสลาย พระเจ้าไม่มีวันแยกจากมนุษย์เลย สามีภรรยาต้องซื่อสัตย์ต่อกันฉันใด พระเป็นเจ้าทรงซื่อสัตย์ยิ่งกว่าอีก
พระเป็นเจ้าทรงเป็นหนึ่งเดียวกับมนุษย์แล้ว และมนุษย์ต้องตอบสนองอย่างไร?
มนุษย์ต้องซื่อสัตย์ต่อพระเป็นเจ้า
ต้องรักและเทิดทูนพระองค์ยิ่งกว่าสิ่งใด
เพราะพระองค์ทรงพิสูจน์ให้เราเห็นซึ่งความรักอันยิ่งใหญ่ของพระองค์ต่อมนุษย์
แม้แต่เหล่านิกรเทวดายังประหลาดใจสุดพรรรณา
ที่เห็นความรักของพระเป็นเจ้าต่อมนุษย์ผู้ต่ำต้อยนี้
มนุษย์ได้รับเกียรติจากรพระเป็นเจ้ามากสักเพียงไรหนอ มนุษย์ได้ทำความดีอะไรหนอ พระองค์จึงทรงรักพวกเขามากถึงเพียงนี้? โอ
ถ้าหากมนุษย์จะได้รับรู้ถึงความรักของพระเป็นเจ่าที่มีต่อพวกเขาแล้ว พวกเขาจะไม่สามารถทนทานได้
และจะตายไปในความรักของพระองค์
โอ้องค์ความรักยิ่งใหญ่
โปรดให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้รับรู้ถึงความรักของพระองค์เถิด
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2025 อุปมาเรื่องเศรษฐีโง่เขลาและความโลภ
ประชาชนคนหนึ่งทูลพระเยซูเจ้าว่า ‘พระอาจารย์ โปรดบอกพี่ชายข้าพเจ้าให้แบ่งมรดกให้ข้าพเจ้าเถิด’ พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า ‘มนุษย์เอ๋ย ใครตั้งเราเป็นผู้พิพากษาหรือเป็นผู้แบ่งมรดกของท่าน แล้วพระองค์ตรัสกับคนเหล่านั้นว่า ‘จงระวังและรักษาตัวไว้ให้พ้นจากความโลภทุกชนิด เพราะชีวิตของคนเราไม่ขึ้นกับทรัพย์สมบัติของเขา แม้ว่าเขาจะมั่งมีมากเพียงใดก็ตาม’ พระองค์ยังตรัสอุปมาเรื่องหนึ่งให้เขาทั้งหลายฟังอีกว่า ‘เศรษฐีคนหนึ่งมีที่ดินที่เกิดผลดีอย่างมาก เขาจึงคิดว่า “ฉันจะทำอย่างไรดี ฉันไม่มีที่พอจะเก็บพืชผลของฉัน” เขาคิดอีกว่า “ฉันจะทำอย่างนี้ จะรื้อยุ้งฉางเก่าแล้วสร้างใหม่ให้ใหญ่โตกว่าเดิม จะได้เก็บข้าวและสมบัติทั้งหมดไว้ แล้วฉันจะพูดกับตนเองว่า “ดีแล้ว เจ้ามีทรัพย์สมบัติมากมายเก็บไว้ใช้ได้หลายปี จงพักผ่อน กินดื่มและสนุกสนานเถิด” แต่พระเจ้าตรัสกับเขาว่า “คนโง่เอ๋ย คืนนี้ เขาจะเรียกเอาชีวิตเจ้าไป แล้วสิ่งที่เจ้าได้เตรียมไว้จะเป็นของใครเล่า คนที่สะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตนเองแต่ไม่เป็นคนมั่งมีสำหรับพระเจ้า ก็จะเป็นเช่นนี้”
(ลูกา 12:13-21)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2025 อุปมาเรื่องเศรษฐีโง่เขลาและความโลภ
ประชาชนคนหนึ่งทูลพระเยซูเจ้าว่า ‘พระอาจารย์ โปรดบอกพี่ชายข้าพเจ้าให้แบ่งมรดกให้ข้าพเจ้าเถิด’ พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า ‘มนุษย์เอ๋ย ใครตั้งเราเป็นผู้พิพากษาหรือเป็นผู้แบ่งมรดกของท่าน แล้วพระองค์ตรัสกับคนเหล่านั้นว่า ‘จงระวังและรักษาตัวไว้ให้พ้นจากความโลภทุกชนิด เพราะชีวิตของคนเราไม่ขึ้นกับทรัพย์สมบัติของเขา แม้ว่าเขาจะมั่งมีมากเพียงใดก็ตาม’ พระองค์ยังตรัสอุปมาเรื่องหนึ่งให้เขาทั้งหลายฟังอีกว่า ‘เศรษฐีคนหนึ่งมีที่ดินที่เกิดผลดีอย่างมาก เขาจึงคิดว่า “ฉันจะทำอย่างไรดี ฉันไม่มีที่พอจะเก็บพืชผลของฉัน” เขาคิดอีกว่า “ฉันจะทำอย่างนี้ จะรื้อยุ้งฉางเก่าแล้วสร้างใหม่ให้ใหญ่โตกว่าเดิม จะได้เก็บข้าวและสมบัติทั้งหมดไว้ แล้วฉันจะพูดกับตนเองว่า “ดีแล้ว เจ้ามีทรัพย์สมบัติมากมายเก็บไว้ใช้ได้หลายปี จงพักผ่อน กินดื่มและสนุกสนานเถิด” แต่พระเจ้าตรัสกับเขาว่า “คนโง่เอ๋ย คืนนี้ เขาจะเรียกเอาชีวิตเจ้าไป แล้วสิ่งที่เจ้าได้เตรียมไว้จะเป็นของใครเล่า คนที่สะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตนเองแต่ไม่เป็นคนมั่งมีสำหรับพระเจ้า ก็จะเป็นเช่นนี้”
(ลูกา 12:13-21)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น