และแล้วพระเยซูเจ้าจึงได้ตอบโต้เปโตร ซึ่งเป็นเรื่องน่าตกใจสำหรับเปโตร พระองค์เรียกท่านว่าซาตาน
แต่พระองค์มิได้หมายความว่าเปโตรคือซาตาน แต่หมายความว่าท่านเป็นปฏิปักษ์ต่อแผนการของพระเจ้า
(เหมือนที่ซาตานพยายามทำลายแผนการทุกอย่างของพระเป็นเจ้า)
มีสองหนทางที่แตกต่างกัน ทางหนึ่งเป็นหนทางของซาตาน นั่นคือความเชื่อที่ว่ามนุษย์สามารถควบคุมหรือชี้นำองค์พระผู้สร้างได้
(เช่นเดียวกับที่ยูดาสคิดวางแผนให้พระเยซูเจ้าทำอัศจรรย์ เมื่อถูดทหารมาจับกุมพระองค์) เราพบเห็นเรื่องนี้ได้ในปัจจุบันที่มาในรูปแบบต่างๆ เช่น กลุ่ม New
Age ที่แนะนำให้แสวงหาความสุขสนุกสบายในโลก วิทยาศาสตร์ที่ไม่เชื่อในพระเจ้า ฯลฯ
อีกหนทางหนึ่งคือ
หนทางขององค์พระผู้ไถ่
ซึ่งบอกว่ามนุษย์อยู่ในบาปและความโน้มเอียงในบาป จำเป็นต้องได้รับการไถ่ให้รอดพ้น และความรอดมาจากพระเป็นเจ้า
เราจะได้รับความรอดโดยอาศัยความถ่อมตนและการละทิ้งบาปหรือตายต่อบาป พระเยซูเจ้าตรัสอย่างหนักแน่นว่า
“ผู้ที่ต้องการติดตามเราต้องปฏิเสธตนเอง
แบกกางเขนของตนและติดตามเรามา” และ “ผู้ที่พยายามรักษาชีวิตของตนไว้ กลับจะสูญเสียชีวิตไป แต่ผู้ที่ยอมสละชีวิตของตนเพราะเห็นแก่เรา
จะได้รับชีวิตกลับคืนมาใหม่ และเป็นชีวิตนิรันดร”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น