พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2025 อุปมาเรื่องเศรษฐีโง่เขลาและความโลภ

          ประชาชนคนหนึ่งทูลพระเยซูเจ้าว่า ‘พระอาจารย์ โปรดบอกพี่ชายข้าพเจ้าให้แบ่งมรดกให้ข้าพเจ้าเถิด’ พระองค์จึงตรัสกับเขาว่า ‘มนุษย์เอ๋ย ใครตั้งเราเป็นผู้พิพากษาหรือเป็นผู้แบ่งมรดกของท่าน แล้วพระองค์ตรัสกับคนเหล่านั้นว่า ‘จงระวังและรักษาตัวไว้ให้พ้นจากความโลภทุกชนิด เพราะชีวิตของคนเราไม่ขึ้นกับทรัพย์สมบัติของเขา แม้ว่าเขาจะมั่งมีมากเพียงใดก็ตาม’ พระองค์ยังตรัสอุปมาเรื่องหนึ่งให้เขาทั้งหลายฟังอีกว่า ‘เศรษฐีคนหนึ่งมีที่ดินที่เกิดผลดีอย่างมาก เขาจึงคิดว่า “ฉันจะทำอย่างไรดี ฉันไม่มีที่พอจะเก็บพืชผลของฉัน” เขาคิดอีกว่า “ฉันจะทำอย่างนี้ จะรื้อยุ้งฉางเก่าแล้วสร้างใหม่ให้ใหญ่โตกว่าเดิม จะได้เก็บข้าวและสมบัติทั้งหมดไว้ แล้วฉันจะพูดกับตนเองว่า “ดีแล้ว เจ้ามีทรัพย์สมบัติมากมายเก็บไว้ใช้ได้หลายปี จงพักผ่อน กินดื่มและสนุกสนานเถิด” แต่พระเจ้าตรัสกับเขาว่า “คนโง่เอ๋ย คืนนี้ เขาจะเรียกเอาชีวิตเจ้าไป แล้วสิ่งที่เจ้าได้เตรียมไว้จะเป็นของใครเล่า คนที่สะสมทรัพย์สมบัติไว้สำหรับตนเองแต่ไม่เป็นคนมั่งมีสำหรับพระเจ้า ก็จะเป็นเช่นนี้”
(ลูกา 12:13-21)








วันพุธที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

พระศาสนจักรของพระเยซูเจ้าจะต้องเป็นอย่างไร

พระเยซูเจ้าประสงค์ให้พระศาสนจักรเป็นอย่างไร
การเปิดเผยต่อนักบุญ บริจิตแห่งสวีเดน

"เราจะอธิบายให้ลูกรู้ถึงความหมายของบ้าน(พระศาสนจักร)ที่เราต้องการสร้างขึ้น บ้าน(พระศาสนจักร)นี้เป็นแหล่งแห่งชีวิตที่บริสุทธิ์ และเราเองผู้สร้างสรรพสิ่งทั้งสิ่งที่ผ่านมาและสิ่งที่ดำรงอยู่ เราจะเป็นฐานรากของบ้านนี้ ในบ้านนี้มีสี่กำแพง กำแพงแรกก็คือความยุติธรรมของเราโดยที่เราจะพิพากษาคนที่เป็นปรปักษ์ต่อบ้านหลังนี้ กำแพงที่สองคือปรีชาญาณของเรา ซึ่งเราจะสอนผู้สร้างบ้านด้วยความรู้และความเข้าใจของเรา กำแพงที่สามคือฤทธานุภาพของเราโดยที่เราจะเสริมกำลังพวกเขาให้ต่อสู้กับการประจญล่อลวงของมารปีศาจ กำแพงที่สี่คือความเมตตาของเราซึ่งต้อนรับทุกคนที่สวดอธิษฐานภาวนา ในกำแพงนี้มีประตูแห่งพระหรรษทานที่ซึ่งทุกคนที่อธิษฐานภาวนาจะได้รับการต้อนรับให้เข้าไปข้างในได้ หลังคาของบ้านหลังนี้คือความรักของเราซึ่งเราจะปกคลุมบาปของทุกคนที่รักเรา เพื่อที่พวกเขาจะไม่ต้องถูกพิพากษาจากบาปของพวกเขา หน้าต่างบนหลังคาที่ซึ่งแสงสว่างจากดวงอาทิตย์สาดส่องเข้ามาคือความคิดและการพิจารณาแห่งพระเมตตาของเรา จากสิ่งนี้ความอบอุ่นแห่งสวรรค์ของเราจะให้ความอบอุ่นแก่ผู้สร้างบ้านทุกคน แต่กำแพงเหล่านี้จะต้องใหญ่และแข็งแรงซึ่งหมายความว่าไม่มีใครสามารถทำลายหรือบิดเบือนพระวาจาของเราหรือโยนพระวาจาของเราทิ้งไป กำแพงจะต้องสูงพอสมควรซึ่งหมายความว่าปรีชาญาณของเราสามารถรับรู้และเข้าใจได้บางส่วน,แต่ไม่อาจเข้าใจได้ทั้งหมด หน้าต่างเรียบง่ายธรรมดาที่เป็นกระจกใสหมายความว่าพระวาจาของเรานั้นเรียบง่ายแต่โดยอาศัยสิ่งเหล่านี้ ความรู้ซึ่งเป็นแสงสว่างแห่งสวรรค์ก็จะเข้ามาสู่โลก หลังคาที่สูงพอสมควรมีความหมายว่าพระวาจาของเราจะต้องถูกเปิดเผยและเผยแพร่ออกไป ไม่ใช่ด้วยวิธีการที่ยากลึกลับเข้าใจไม่ได้ แต่ด้วยวิธีที่สามารถเข้าใจได้ซึ่งคนที่รับรู้จะเข้าใจได้โดยง่าย "
 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น