จาคอบ
แห่งเมดจูกอเรจ์, เมื่อเป็นเด็กชอบเล่นเตะฟุตบอลกับเพื่อนมาก.
แม่พระได้บอกกับเขาไม่ให้หยุดสวดภาวนา เมื่อเวลาที่เดินไปโรงเรียนหรือเล่นอยู่กับเพื่อน,ก็ให้ภาวนาด้วยการพูดประโยคสั้นๆที่ออกจากหัวใจต่อพระเป็นเจ้า วันต่อมา,จาคอปกำลังจะไปเล่นกีฬากับเพื่อน ก่อนเริ่มเล่น,เขาจำคำของแม่พระที่บอกเขาเมื่อเย็นวันก่อนได้.
แต่เขารู้สึกไม่อยากสวดภาวนา. เขาอยากเริ่มเล่นกีฬาเลย. เพื่อประนีประนอมในจิตใจ,เขาจึงสวดบทวันทามารีอาอย่างเร็วๆเพื่อไม่ให้แม่พระเสียพระทัย. วันนั้น,เมื่อแม่พระประจักษ์มาแก่เขา.
พระนางทรงให้เขาเห็นชายคนหนึ่งซึ่งอยู่ในประเทศจีน, เขากำลังจะตาย.
เขาเป็นคนเหี้ยมโหดมาก,เป็นคนใจแข็ง,และเขากำลังจะต้องไปยังนรก.
แต่แม่พระตรัสแก่จาคอปว่า
เพราะเห็นแก่การสวดภาวนาที่เขาถวายแด่พระนางก่อนที่จะเล่นกีฬา, ถึงแม้จะเป็นการสวดอย่างเร็วๆ, แต่ด้วยการสวดภาวนานี้จึงทำให้พระนางได้รับพระหรรษทานจากพระเป็นเจ้าเพื่อช่วยคนคนนี้.
ก่อนที่เขาจะตาย ,จิตใจของเขาได้เปลี่ยนไป
ชายคนนี้ได้รับการช่วยเหลือเพราะคำสวดภาวนาของจาคอป.
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี
  เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ผู้เลี้ยงแกะย่อมสละชีวิตเพื่อแกะของตน ลูกจ้างที่ไม่ใช่ผู้เลี้ยงแกะและไม่เป็นเจ้าของแกะ เมื่อเห็นสุนัขป่าเข้ามาก็ละทิ้งบรรดาแกะและหนีไป สุนัขป่าแย่งชิงแกะ และฝูงแกะก็กระจัดกระจายไป ลูกจ้างวิ่งหนีเพราะเขาเป็นเพียงลูกจ้าง ไม่มีความห่วงใยฝูงแกะเลย เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี เรารู้จักแกะของเรา และแกะของเราก็รู้จักเรา พระบิดาทรงรู้จักเราฉันใด เราก็รู้จักพระบิดาฉันนั้น เรายอมสละชีวิตเพื่อแกะของเรา เรายังมีแกะอื่น ๆ ซึ่งไม่อยู่ในคอกนี้ เราต้องนำหน้าแกะเหล่านี้ด้วย แกะจะฟังเสียงของเรา
  จะมีแกะเพียงฝูงเดียวและผู้เลี้ยงเพียงคนเดียว พระบิดาทรงรักเรา เพราะเราสละชีวิตของเราเพื่อจะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก ไม่มีใครเอาชีวิตไปจากเราได้ แต่เราเองสมัครใจสละชีวิตนั้น
  เรามีอำนาจที่จะสละชีวิตของเรา และมีอำนาจที่จะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก นี่คือพระบัญชาที่เราได้รับจากพระบิดาของเรา‘
(ยอห์น 10:11-18)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี
  เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ผู้เลี้ยงแกะย่อมสละชีวิตเพื่อแกะของตน ลูกจ้างที่ไม่ใช่ผู้เลี้ยงแกะและไม่เป็นเจ้าของแกะ เมื่อเห็นสุนัขป่าเข้ามาก็ละทิ้งบรรดาแกะและหนีไป สุนัขป่าแย่งชิงแกะ และฝูงแกะก็กระจัดกระจายไป ลูกจ้างวิ่งหนีเพราะเขาเป็นเพียงลูกจ้าง ไม่มีความห่วงใยฝูงแกะเลย เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี เรารู้จักแกะของเรา และแกะของเราก็รู้จักเรา พระบิดาทรงรู้จักเราฉันใด เราก็รู้จักพระบิดาฉันนั้น เรายอมสละชีวิตเพื่อแกะของเรา เรายังมีแกะอื่น ๆ ซึ่งไม่อยู่ในคอกนี้ เราต้องนำหน้าแกะเหล่านี้ด้วย แกะจะฟังเสียงของเรา
  จะมีแกะเพียงฝูงเดียวและผู้เลี้ยงเพียงคนเดียว พระบิดาทรงรักเรา เพราะเราสละชีวิตของเราเพื่อจะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก ไม่มีใครเอาชีวิตไปจากเราได้ แต่เราเองสมัครใจสละชีวิตนั้น
  เรามีอำนาจที่จะสละชีวิตของเรา และมีอำนาจที่จะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก นี่คือพระบัญชาที่เราได้รับจากพระบิดาของเรา‘
(ยอห์น 10:11-18)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น