เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2019 เทวรูปของชาวอะเมซอนที่เคยใช้ในพิธีกรรมในพระวิหารถูกขโมยและนำไปโยนทิ้งในแม่น้ำไทเบอร์, อิตาลี และมีผู้ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้มากมายโดยกล่าวว่าเหตุผลที่กระทำในเรื่องนี้มีอยู่ประการเดียวคือ – พระเยซูคริสต์ องค์พระผู้ไถ่ของเรา และพระมารดาของพระองค์ รวมทั้งทุกคนที่ติดตามพระคริสต์กำลังถูกโจมตีจากสมาชิกของพระศาสนจักรของเราเอง เราไม่อาจยอมรับสิ่งนี้ได้ เราไม่สามารถนิ่งเฉย เราต้องตอบโต้ เพราะเรารักในมนุษยชาติ เราไม่สามารถยอมรับประชาชนจากบริเวณนั้นที่ไม่ยอมรับการล้างบาปและปฏิเสธที่จะเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องติดตามพระวาจาของพระเจ้าเหมือนกับที่พระมารดาของเราทรงกระทำ ไม่มีหนทางที่สองของหนทางแห่งความรอด หนทางแห่งความรอดมีเพียงหนึ่งเดียวนั่นคือ ทางพระคริสตเจ้าผู้ทรงเป็น หนทาง ความจริง และชีวิต
Pages
พระเมตตาของพระเยซูเจ้า
จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฏาคม 2025 อุปมาเรื่องชาวสะมาเรียผู้ใจดี
& ขณะนั้น นักกฎหมายคนหนึ่งยืนขึ้นทูลถามเพื่อจะจับผิดพระองค์ว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าจะต้องทำสิ่งใดเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร” พระองค์ตรัสถามเขาว่า “ในธรรมบัญญัติมีเขียนไว้อย่างไร ท่านอ่านว่าอย่างไร” เขาทูลตอบว่า “ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดกำลัง และสุดสติปัญญาของท่าน ท่านจะต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านตอบถูกแล้ว จงทำเช่นนี้ แล้วจะได้ชีวิต”
& ชายคนนั้นต้องการแสดงว่าตนถูกต้องจึงทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “แล้วใครเล่าเป็นเพื่อนมนุษย์ของข้าพเจ้า” พระเยซูเจ้าจึงตรัสต่อไปว่า “ชายคนหนึ่งกำลังเดินทางจากกรุงเยรูซาเล็มไปยังเมืองเยรีโค เขาถูกโจรปล้น พวกโจรปล้นทุกสิ่ง ทุบตีเขา แล้วก็จากไป ทิ้งเขาไว้อาการสาหัสเกือบสิ้นชีวิต สมณะผู้หนึ่งเดินผ่านมาทางนั้นโดยบังเอิญ เห็นเขาและเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่ง ชาวเลวีคนหนึ่งผ่านมาทางนั้น เห็นเขาและเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่งเช่นเดียวกัน แต่ชาวสะมาเรียผู้หนึ่งเดินทางผ่านมาใกล้ ๆ เห็นเขาก็รู้สึกสงสาร จึงเดินเข้าไปหา เทน้ำมันและเหล้าองุ่นลงบนบาดแผลแล้วพันผ้าให้ นำเขาขึ้นหลังสัตว์ของตนพาไปถึงโรงแรมแห่งหนึ่งและช่วยดูแลเขา วันรุ่งขึ้นชาวสะมาเรียผู้นั้นนำเงินสองเหรียญออกมามอบให้เจ้าของโรงแรมไว้กล่าวว่า “ช่วยดูแลเขาด้วย เงินที่ท่านจะจ่ายเกินไปนั้น ฉันจะคืนให้เมื่อกลับมา” ท่านคิดว่าในสามคนนี้ใครเป็นเพื่อนมนุษย์ของคนที่ถูกโจรปล้น” เขาทูลตอบว่า “คนที่แสดงความเมตตาต่อเขา” พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “ท่านจงไปและทำเช่นเดียวกันเถิด”
(ลูกา 10:25-37)
พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 13 กรกฏาคม 2025 อุปมาเรื่องชาวสะมาเรียผู้ใจดี
& ขณะนั้น นักกฎหมายคนหนึ่งยืนขึ้นทูลถามเพื่อจะจับผิดพระองค์ว่า “พระอาจารย์ ข้าพเจ้าจะต้องทำสิ่งใดเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร” พระองค์ตรัสถามเขาว่า “ในธรรมบัญญัติมีเขียนไว้อย่างไร ท่านอ่านว่าอย่างไร” เขาทูลตอบว่า “ท่านจะต้องรักองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าของท่านสุดจิตใจ สุดวิญญาณ สุดกำลัง และสุดสติปัญญาของท่าน ท่านจะต้องรักเพื่อนมนุษย์เหมือนรักตนเอง” พระองค์ตรัสกับเขาว่า “ท่านตอบถูกแล้ว จงทำเช่นนี้ แล้วจะได้ชีวิต”
& ชายคนนั้นต้องการแสดงว่าตนถูกต้องจึงทูลถามพระเยซูเจ้าว่า “แล้วใครเล่าเป็นเพื่อนมนุษย์ของข้าพเจ้า” พระเยซูเจ้าจึงตรัสต่อไปว่า “ชายคนหนึ่งกำลังเดินทางจากกรุงเยรูซาเล็มไปยังเมืองเยรีโค เขาถูกโจรปล้น พวกโจรปล้นทุกสิ่ง ทุบตีเขา แล้วก็จากไป ทิ้งเขาไว้อาการสาหัสเกือบสิ้นชีวิต สมณะผู้หนึ่งเดินผ่านมาทางนั้นโดยบังเอิญ เห็นเขาและเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่ง ชาวเลวีคนหนึ่งผ่านมาทางนั้น เห็นเขาและเดินผ่านเลยไปอีกฟากหนึ่งเช่นเดียวกัน แต่ชาวสะมาเรียผู้หนึ่งเดินทางผ่านมาใกล้ ๆ เห็นเขาก็รู้สึกสงสาร จึงเดินเข้าไปหา เทน้ำมันและเหล้าองุ่นลงบนบาดแผลแล้วพันผ้าให้ นำเขาขึ้นหลังสัตว์ของตนพาไปถึงโรงแรมแห่งหนึ่งและช่วยดูแลเขา วันรุ่งขึ้นชาวสะมาเรียผู้นั้นนำเงินสองเหรียญออกมามอบให้เจ้าของโรงแรมไว้กล่าวว่า “ช่วยดูแลเขาด้วย เงินที่ท่านจะจ่ายเกินไปนั้น ฉันจะคืนให้เมื่อกลับมา” ท่านคิดว่าในสามคนนี้ใครเป็นเพื่อนมนุษย์ของคนที่ถูกโจรปล้น” เขาทูลตอบว่า “คนที่แสดงความเมตตาต่อเขา” พระเยซูเจ้าจึงตรัสกับเขาว่า “ท่านจงไปและทำเช่นเดียวกันเถิด”
(ลูกา 10:25-37)
วันพุธที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2562
เทวรูปถูกขโมยและนำไปทิ้งแม่น้ำไทเบอร์
เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 2019 เทวรูปของชาวอะเมซอนที่เคยใช้ในพิธีกรรมในพระวิหารถูกขโมยและนำไปโยนทิ้งในแม่น้ำไทเบอร์, อิตาลี และมีผู้ออกมาแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้มากมายโดยกล่าวว่าเหตุผลที่กระทำในเรื่องนี้มีอยู่ประการเดียวคือ – พระเยซูคริสต์ องค์พระผู้ไถ่ของเรา และพระมารดาของพระองค์ รวมทั้งทุกคนที่ติดตามพระคริสต์กำลังถูกโจมตีจากสมาชิกของพระศาสนจักรของเราเอง เราไม่อาจยอมรับสิ่งนี้ได้ เราไม่สามารถนิ่งเฉย เราต้องตอบโต้ เพราะเรารักในมนุษยชาติ เราไม่สามารถยอมรับประชาชนจากบริเวณนั้นที่ไม่ยอมรับการล้างบาปและปฏิเสธที่จะเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องติดตามพระวาจาของพระเจ้าเหมือนกับที่พระมารดาของเราทรงกระทำ ไม่มีหนทางที่สองของหนทางแห่งความรอด หนทางแห่งความรอดมีเพียงหนึ่งเดียวนั่นคือ ทางพระคริสตเจ้าผู้ทรงเป็น หนทาง ความจริง และชีวิต
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น