บทข้าแต่พระบิดา
ภาคแรก
|
เป็นการสรรเสริญพระเป็นเจ้า
เรากล่าวว่า “ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย พระองค์สถิตในสวรรค์ พระนามพระองค์จงเป็นที่สักการะ พระอาณาจักรจงมาถึง พระประสงค์จงสำเร็จไปในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์
“ เราสรรเสริญพระองค์ว่าทรงเป็นพระเป็นเจ้าสูงสุด เรารู้สึกปลื้มปิติยินดีที่พระองค์ทรงเป็นบิดาของเรา ดังนั้นเราปรารถนาที่จะอยู่ใกล้ชิดพระองค์ นั่นคือให้อาณาจักรของพระองค์จงมาถึง
และให้พระประสงค์ของพระองค์สำเร็จไปเพื่อแผ่นดินจะได้มีความสุข
|
ภาคที่สอง
|
เป็นการถ่อมตนและขออภัย เรากล่าวว่า “โปรดอภัยแก่ข้าพเจ้าเหมือนข้าพเจ้าให้อภัยแก่ผู้อื่น”
และเป็นการวอนขอ เราวอนขอสองอย่างคือ “โปรดประทานอาหารประจำวัน
แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายในวันนี้ “ และ “โปรดช่วยข้าพเจ้าไม่ให้แพ้การประจญ แต่โปรดช่วยให้พ้นจากความชั่วร้ายเทอญ” เราวอนขอในฐานะที่เราเป็นลูกของพระองค์และพระองค์เป็นบิดาของเรา โดยการขอให้พระองค์เลี้ยงดูเราและช่วยปกป้องเราให้พันจากภัยอันตราย
เรายังขอให้พระองค์อภัยความผิดแก่เราเมื่อเราทำความผิดด้วย
|
ภาคแรก
|
เป็นการสรรเสริญแม่พระ
เรากล่าวว่า “วันทามารีย์ เปี่ยมด้วยพระหรรษทาน พระเจ้าสถิตกับท่าน ผู้ได้รับพระพรกว่าหญิงใดใด
และพระเยซูโอรสของท่านทรงได้รับพระพรยิ่งนัก“
เมื่อเรากล่าวสรรเสริญแม่พระ
เรารู้สึกปลื้มปิติยินดีที่แม่พระทรงได้รับพระเกียรติ และเราได้ทำให้คำทำนายของแม่พระสำเร็จไป คือ “แต่นี้ไปมนุษย์ทุกยุคทุกสมัยจะเรียกข้าพเจ้าว่าเป็นผู้มีบุญ” แม่พระทรงมีบุญ มีโชควาสนาที่ได้เป็นมารดาของพระเป็นเจ้า
|
ภาคที่สอง
|
เป็นการถ่อมตนและวอนขอ เรากล่าวว่า “สันตะมารีย์มารดาพระเจ้า โปรดภาวนาเพื่อลูกทั้งหลายผู้เป็นคนบาป บัดนี้และเมื่อจะตาย” เราถ่อมตนยอมรับว่าเป็นคนบาปและขอให้แม่พระทรงวอนขออภัยจากพระบิดาแทนเรา เหมือนเช่นเด็กที่มาพึ่งแม่เมื่อทำความผิด ขอให้แม่พูดกับพ่อแทนตนเอง เรามีความวางใจในแม่พระในฐานะมารดาของเรา เราไม่ได้ขอให้แม่พระอภัยบาปของเรา เพราะมีแต่พระเป็นเจ้าเท่านั้นที่สามารถให้อภัยบาปได้
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น