พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2024 สมโภชพระเยซูจะกษัตริย์แห่งสากลจักรวาล

           ปีลาตกลับเข้าไปในจวน และเรียกพระเยซูเจ้ามาถามว่า “ท่านเป็นกษัตริย์ของชาวยิวหรือ” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่านถามดังนี้ด้วยตนเอง หรือผู้อื่นบอกท่านถึงเรื่องของเรา” ปีลาตตอบว่า “ข้าพเจ้าเป็นชาวยิวหรือ ชนชาติของท่าน และบรรดาหัวหน้าสมณะมอบท่านให้ข้าพเจ้า ท่านทำผิดสิ่งใด” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “อาณาจักรของเรามิได้มาจากโลกนี้ ถ้าอาณาจักรของเรามาจากโลกนี้ ผู้รับใช้ของเราก็คงจะต่อสู้เพื่อมิให้เราถูกมอบให้ชาวยิว แต่อาณาจักรของเราไม่ได้เป็นของโลกนี้” ปีลาตจึงถามพระองค์ว่า “ถ้าเช่นนั้น ท่านเป็นกษัตริย์ใช่ไหม” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่านพูดว่าเราเป็นกษัตริย์นั้นถูกต้องแล้ว เราเกิดมาเพื่อเป็นกษัตริย์ เรามาในโลกนี้เพื่อเป็นพยานถึงความจริง ผู้ใดอยู่ฝ่ายความจริงก็ฟังเรา”
(ยอห์น 18:33ข-37)








วันพฤหัสบดีที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

อย่าตอบแทนความชั่วด้วยความชั่ว


ปีแอร์ เทาเซนต์ เกิดปี 1766 ในฐานะทาสที่อาณานิคมฝรั่งเศสในไฮติ  เมื่อเขาอายุ 11 ปี  เจ้านายของเขาได้อพยพไปอยู่ที่นิวยอร์ก  นำภรรยา , ลูกและทาส 5 คน ซึ่งรวมทั้งปีแอร์ไปกับเขาด้วย  เมื่อเจ้านายของเขาเสียชีวิต  ปีแอร์สมัครที่จะอยู่รับใช้ครอบครัวของเจ้านายในฐานะทาสต่อไป  และทำหน้าที่เป็นช่างตัด-แต่งผม เพื่อหาเงินให้ครอบครัวนี้เป็นเวลานานถึง 20 ปี  ต่อมาในปี 1807 ภรรยาของเจ้านายได้เจ็บป่วย  และก่อนจะเสียชีวิต  เธอได้ปล่อยปีแอร์ให้เป็นอิสระ  ปีแอร์ได้แต่งงานกับจูเลียตซึ่งเป็นทาสเช่นเดียวกัน  ทั้งสองอุทิศตนเพื่อดูแลเด็กกำพร้าผิวดำ  ในเวลาเดียวกันปีแอร์ก็พยายามช่วยเหลือทาสด้วยการใช้เงินเพื่อไถ่ตัวของทาส  เขาช่วยดูแลผู้เจ็บป่วยด้วยโรคท้องร่วงหรือโรคไข้เหลือง  ในนิวยอร์กผู้คนต่างรู้จักปีแอร์ในฐานะมีใจบุญสุนทาน  เขาได้บริจาคเงินเพื่อช่วยสร้างโบสถ์ เซนต์แพททริก  และทุกๆวันตลอด 70 ปี  เขาจะร่วมพิธีมิสซาที่โบสถ์คาทอลิกเก่าแก่ของเมือง  โบสถ์เซนต์ปีเตอร์ที่อยู่ชานเมืองแมนฮัตตัน  เขาเสียชีวิตในปี 1853  มีคนนับพันมาร่วมพิธีศพของเขาด้วยความอาลัยรัก  มีผู้คนทั้งผิวขาว  ผิวดำ  คาทอลิก และโปรแตสแตนท์  ในปี 1996 พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ทรงสถาปนาปีแอร์ขึ้นเป็น “ผู้ควรเคารพ” Venerable  ศพของเขาถูกย้ายไปอยู่ใต้พระแท่นของอาสนวิหารเซนต์แพททริก(William J. Bausch, Once Upon A Gospel, p. 326)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น