พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2025 ผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง

          พระเยซูเจ้าตรัสเล่าเรื่องอุปมานี้ให้บางคนที่ภูมิใจว่าตนเป็นผู้ชอบธรรมและดูหมิ่นผู้อื่นฟังว่า ‘มีชายสองคนขึ้นไปอธิษฐานภาวนาในพระวิหาร คนหนึ่งเป็นชาวฟาริสี อีกคนหนึ่งเป็นคนเก็บภาษี ชาวฟาริสียืนอธิษฐานภาวนาในใจว่า “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ที่ข้าพเจ้าไม่เป็นเหมือนมนุษย์คนอื่น ที่เป็นขโมย อยุติธรรม ล่วงประเวณี หรือเหมือนคนเก็บภาษีคนนี้ ข้าพเจ้าจำศีลอดอาหารสัปดาห์ละสองวัน และถวายหนึ่งในสิบของรายได้ทั้งหมดของข้าพเจ้า” ส่วนคนเก็บภาษียืนอยู่ห่างออกไป ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ได้แต่ข้อนอก พูดว่า “ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงพระกรุณาต่อข้าพเจ้าคนบาปด้วยเถิด” เราบอกท่านทั้งหลายว่าคนเก็บภาษีกลับไปบ้าน ได้รับความชอบธรรม แต่ชาวฟาริสีไม่ได้รับ เพราะว่าผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง ผู้ใดที่ถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น’’
(ลูกา 18:9-14)








วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ชีวิตพอเพียง


มีรายการสัมภาษณ์หนึ่งชั่วโมงของสถานีโทรทัศน์ CNBC สัมภาษณ์วอร์เรน  บัฟเฟตต์  มหาเศรษฐีอันดับสองของโลก (รองจากบิลเกตต์) ซึ่งบริจาคเงินให้การกุศลถึง 31,000 ล้านดอลลาร์ (เป็นเงินไทยประมาณ 1,000,000,000,000  อ่านว่า 1 ล้าน ล้านบาท)
ต่อไปนี้คือแง่มุมบางส่วนที่น่าสนใจยิ่งจากชีวิตของเขา
1.             เขาเริ่มซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่ออายุ 11 ขวบ  และปัจจุบันบอกว่ารู้สึกเสียใจที่เริ่มช้าไป
2.             เขาซื้อไร่เล็กๆเมื่ออายุ 14 ปี  โดยใช้เงินเก็บจากการส่งหนังสือพิมพ์
3.             เขายังอาศัยอยู่ในบ้านเล็กหลังเดิมขนาด 3 ห้องนอนกลางเมืองโอมาฮา  ที่ซื้อไว้หลังแต่งงานเมื่อ 50 ปีก่อน  เขาบอกว่ามีทุกสิ่งที่ต้องการในบ้านหลังนี้  บ้านเขาไม่มีรั้วหรือกำแพงล้อม
4.             เขาขับรถไปไหนมาไหนด้วยตนเอง  ไม่มีคนขับรถหรือคนคุ้มกัน
5.             เขาไม่เคยเดินทางด้วยเครื่องบินส่วนตัว  แม้จะเป็นเจ้าของบริษัทขายเครื่องบินส่วนตัวที่ใหญ่ที่สุดในโลก
6.             บริษัท  เบิร์กไช แฮทะเวย์  ของเขา  มีบริษัทในเครือ  63 บริษัท  เขาเขียนจดหมายถึง  ซีอีโอ  ของบริษัทเหล่านี้เพียงปีละฉบับเดียว  เพื่อกำหนดเป้าหมายประจำปี  เขาไม่เคยนัดประชุมหรือโทรคุยกับซีอีโอเหล่านี้เป็นประจำ
7.             เขาให้กฎแก่  ซีอีโอ  เพียงสองข้อ  กฎข้อ 1  อย่าทำให้เงินของผู้ถือหุ้นเสียหาย  กฎข้อ  2  อย่าลืมกฎข้อ 1
8.             เขาไม่สมาคมกับพวกไฮโซ  การพักผ่อนเมื่อกลับบ้าน  คือ  ทำข้าวโพดคั่วกินและดูโทรทัศน์
9.             บิลเกตส์  คนที่รวยที่สุดในโลก  เพิ่งพบเขาเป็นครั้งแรกเมื่อห้าปีก่อน  บิล  เกตส์คิดว่าตนเองไม่มีอะไรเหมือนวอร์เรน  บัฟเฟตต์  เลย  จึงให้เวลานัดไว้เพียง ครึ่งชั่วโมง  แต่เมื่อบิล  เกตส์ได้พบบัฟเฟตต์จริงๆ  ปรากฏว่าคุยกันนานถึงสี่ชั่วโมงและบิล  เกตส์  เป็นผู้มีความศรัทธาในตัว วอร์เรน  บัฟเฟตต์
10.      วอร์เรน  บัฟเฟตต์  ไม่ใช้โทรศัพท์มือถือ  และไม่มีคอมพิวเตอร์บนโต๊ะทำงาน
11.      เขาแนะนำเยาวชนคนหนุ่มสาวว่า   จงหลีกห่างจากบัตรเครดิต  และลงทุนในตัวคุณเอง  ที่สุดของชีวิตคือ ปัจจัย 4 อย่างเพียงพอนั่นเอง
       มหาเศรษฐีหรือยาจก  กินข้าวแล้วก็อิ่ม  1 มื้อเท่ากัน
       มหาเศรษฐีหรือยาจก  มีเสื้อผ้ากี่ชุด  ก็ใส่ได้ทีละชุด  เท่ากัน
       มหาเศรษฐีหรือยาจก  มีบ้านหลังใหญ่แค่ไหน  พื้นที่ที่ใช้จริงๆก็เหมือนกันคือ ห้องนอน  ห้องน้ำ  ห้องครัว  เหมือนกัน
       มหาเศรษฐีหรือยาจก  จะมียารักษาโรคดีแค่ไหน  ยื้อชีวิตไปได้นานเพียงไร  สุดท้ายก็ต้องตายเหมือนกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น