พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 26 ตุลาคม 2025 ผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง

          พระเยซูเจ้าตรัสเล่าเรื่องอุปมานี้ให้บางคนที่ภูมิใจว่าตนเป็นผู้ชอบธรรมและดูหมิ่นผู้อื่นฟังว่า ‘มีชายสองคนขึ้นไปอธิษฐานภาวนาในพระวิหาร คนหนึ่งเป็นชาวฟาริสี อีกคนหนึ่งเป็นคนเก็บภาษี ชาวฟาริสียืนอธิษฐานภาวนาในใจว่า “ข้าแต่พระเจ้า ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระองค์ที่ข้าพเจ้าไม่เป็นเหมือนมนุษย์คนอื่น ที่เป็นขโมย อยุติธรรม ล่วงประเวณี หรือเหมือนคนเก็บภาษีคนนี้ ข้าพเจ้าจำศีลอดอาหารสัปดาห์ละสองวัน และถวายหนึ่งในสิบของรายได้ทั้งหมดของข้าพเจ้า” ส่วนคนเก็บภาษียืนอยู่ห่างออกไป ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า ได้แต่ข้อนอก พูดว่า “ข้าแต่พระเจ้า โปรดทรงพระกรุณาต่อข้าพเจ้าคนบาปด้วยเถิด” เราบอกท่านทั้งหลายว่าคนเก็บภาษีกลับไปบ้าน ได้รับความชอบธรรม แต่ชาวฟาริสีไม่ได้รับ เพราะว่าผู้ใดที่ยกตนขึ้นจะถูกกดให้ต่ำลง ผู้ใดที่ถ่อมตนลง จะได้รับการยกย่องให้สูงขึ้น’’
(ลูกา 18:9-14)








วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2559

เด็กที่ฝากผลงานไว้ให้โลก4

Claudette Colvin
ฉันจะไม่ลุก เพื่อรักษาสิทธิของความเท่าเทียมกันของมนุษย์



คุณกล้าที่จะต่อสู้กับสิ่งผิดๆ ในสังคมเห็นเป็นเรื่องปรกติหรือไม่?
เรื่องราวของ Claudette Colvin เด็กสาวผิวสีอายุเพียง 15 ปี ในสหรัฐอเมริกา นั่งรถบัสกลับบ้านตามปรกติ ซึ่งในยุคนั้น สิทธิของคนผิวดำมีน้อยมาก เรียกได้ว่าเป็นคนละชนชั้นกับคนผิวขาวเลย ทั้งการจำกัดอาชีพ บริการสาธารณะต่างๆ หากใครเคยดูภาพยนตร์เรื่อง The Help จะยิ่งเห็นภาพ เช่นการแบ่งห้องน้ำระหว่างเจ้านายผิวขาวและลูกจ้างผิวสี รวมถึงการขึ้นรถบัสประเภทหนึ่งคือรถบัสแบ่งแยกสีผิว ที่มีกฏว่าคนผิวสีจะต้องลุกให้คนผิวขาวนั่ง แม้จะมานั่งก่อนก็ตาม ซึ่งคงมองกันว่าเป็นกฏที่ปรกติธรรมดาในสมัยนั้น
แต่ Colvin ไม่คิดเช่นนั้น
เธอปฏิเสธและยืนกรานที่จะไม่ปฏิบัติตามกฏนั้น เธอไม่ลุกให้คนผิวขาวนั่ง ซึ่งการปฏิเสธเช่นนี้ทำให้ต้องถูกดำเนินคดี แต่เธอก็ต่อสู้คดีจนถึงศาลสูงสุด
การต่อสู้ของเธอสำฤทธิ์ผล.. ในที่สุดศาลก็มีคำสั่งให้ ยกเลิกรถบัสแบ่งแยกสีผิว จะต้องไม่มีการให้คนผิวใดลุกให้คนผิวใดอีก นี่เป็นดั่งจุดเริ่มต้นจุดหนึ่งที่นำไปสู่แรงกระเพื่อมทางสังคม และมีเหตุการณ์ต่างๆ อีกมากมายหลังจากนั้น จนนำไปสู่ค่านิยมการไม่แบ่งแยกผิวสีและเชื้อชาติตราบจนทุกวันนี้ จากคำปฏิเสธเล็กๆ ของเด็กสาวอายุ 15 ปี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น