พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน 2024 พระเยซูเจ้าทรงเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี

           เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี ผู้เลี้ยงแกะย่อมสละชีวิตเพื่อแกะของตน ลูกจ้างที่ไม่ใช่ผู้เลี้ยงแกะและไม่เป็นเจ้าของแกะ เมื่อเห็นสุนัขป่าเข้ามาก็ละทิ้งบรรดาแกะและหนีไป สุนัขป่าแย่งชิงแกะ และฝูงแกะก็กระจัดกระจายไป ลูกจ้างวิ่งหนีเพราะเขาเป็นเพียงลูกจ้าง ไม่มีความห่วงใยฝูงแกะเลย เราเป็นผู้เลี้ยงแกะที่ดี เรารู้จักแกะของเรา และแกะของเราก็รู้จักเรา พระบิดาทรงรู้จักเราฉันใด เราก็รู้จักพระบิดาฉันนั้น เรายอมสละชีวิตเพื่อแกะของเรา เรายังมีแกะอื่น ๆ ซึ่งไม่อยู่ในคอกนี้ เราต้องนำหน้าแกะเหล่านี้ด้วย แกะจะฟังเสียงของเรา
           จะมีแกะเพียงฝูงเดียวและผู้เลี้ยงเพียงคนเดียว พระบิดาทรงรักเรา เพราะเราสละชีวิตของเราเพื่อจะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก ไม่มีใครเอาชีวิตไปจากเราได้ แต่เราเองสมัครใจสละชีวิตนั้น
           เรามีอำนาจที่จะสละชีวิตของเรา และมีอำนาจที่จะเอาชีวิตนั้นคืนมาอีก นี่คือพระบัญชาที่เราได้รับจากพระบิดาของเรา‘
(ยอห์น 10:11-18)








วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2559

การกลับฟื้นคืนชีพของพระเยซูเจ้า



พระเยซูเจ้าทรงกลับฟื้นคืนชีพจากความตายจริงหรือ? หลักฐานที่สนับสนุนความเชื่อของคริสตชน
มากกว่า 2000 ปี ที่ชายผู้หนึ่งที่มาจากกาลิลีถูกประหารชีวิต  อย่างไรก็ตาม  สามวันหลังจากนั้น เขาก็กลับฟื้นคืนชีพจากความตาย  ทำให้บรรดาผู้มีความเชื่อและไม่มีความเชื่อประหลาดใจ  นี่เป็นการกระทำที่เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า  สิ่งที่เขาพูดไว้เป็นความจริงและเขาเป็นบุตรของพระเจ้า  เป็นพระแมสสิยาห์
และนี่เป็นแก่นของความเชื่อคริสตชน
หนังสือชื่อ "Did Jesus Really Rise from the Dead?" เขียนขึ้นจากมุมมองที่แตกต่างกันหลายแง่มุม  ดังเช่น  จากประวัติศาสตร์  เทววิทยาและเรื่องฝ่ายจิต  หนังสือได้แสดงหลักฐานยืนยันความเป็นจริงของเหตุการณ์นี้
CARL E. OLSON ผู้เขียนหนังสือ
“ผมใช้เวลาเล็กน้อยในการอธิบายว่าเหตุใดการกลับฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูเจ้าจึงมีความสำคัญมาก  มันมีความหมายสำหรับคริสตชน  ไม่ใช่เป็นแค่เพียงประโยคหนึ่งในบทสวดข้าพเจ้าเชื่อเท่านั้น   แต่มันเป็นหัวใจหลักทีเดียว  มันเชื่อมโยงกับความเชื่อของเราที่มีในพระเป็นเจ้า องค์พระตรีเอกภาพ  และความเชื่อว่าพระเยซูเจ้าทรงเป็นพระเป็นเจ้าแท้และมนุษย์แท้ที่ได้ทรงมาบังเกิดเป็นมนุษย์
Carl Olson มีพื้นเพมาจากการเป็นโปรแตสแตนท์ , แอนตี้คาทอลิก, เป็นผู้ยึดมั่นในคำสอนของตนอย่างเหนียวแน่น  แต่หลังจากที่เขาได้ศึกษาประวัติศาสตร์พระศาสนจักรแล้ว  เขาก็ได้เข้าสู่พระศาสนจักรคาทอลิกอย่างเต็มตัว
หนังสือได้พูดถึงการกลับฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูเจ้าและพระคัมภีร์ได้กล่าวถึงเรื่องนี้อย่างไร  โดยตัดประเด็นเรื่องของอัศจรรย์ หรือการมีใจอคติต่อศาสนายิว  ต่อธรรมเนียมและพิธีกรรมของชาวยิวซึ่งมีผลกระทบต่อความเชื่อเรื่องการกลับฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูเจ้า  แต่นี่เป็นแง่มุมหนึ่งเกี่ยวกับพระเยซูเจ้าจากผู้เขียนที่เป็นชาวเยอรมันโปรแตสแตนท์ในศตวรรษที่ 18-19
CARL E. OLSON ผู้เขียนหนังสือ
“คริสต์ศาสนาเป็นประวัติศาสตร์แห่งความเชื่อ  ซึ่งฝังรากลึกในยุคสมัยและสถานที่  ดังนั้นผมต้องการให้ประชาชนเชื่อมโยงเรื่องราวตั้งแต่คริสตศาสนายุคต้นกับพระคัมภีร์เพื่อทำให้ความเข้าใจของเรามีมากขึ้นและบังเกิดความรักในสิ่งเหล่านั้น”
อาจมีคนคิดว่า  การกลับฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูเจ้าอาจเป็นเพียงภาพมายา หรือเป็นตำนานลึกลับ หรือเป็นเพียงความฝันของบรรดาศิษย์ของพระเยซูเจ้าซึ่งเกิดจากความตายของพระองค์  อย่างไรก็ตาม  ความจริงในประวัติศาสตร์ได้ลบล้างความคิดเหล่านี้  ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าพระเยซูเจ้าทรงกลับคืนชีพจากความตายอย่างแท้จริง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น