พระเมตตาของพระเยซูเจ้า

จงบอกมนุษยชาติที่กำลังเจ็บป่วย ให้เข้ามาใกล้หัวใจอันเมตตาของเรา แล้วเราจะประทานสันติภาพให้แก่มนุษยชาติ พระเมตตาของเราไม่มีวันสิ้นสุดเลย

พระวาจาวันอาทิตย์ที่ 24 พฤศจิกายน 2024 สมโภชพระเยซูจะกษัตริย์แห่งสากลจักรวาล

           ปีลาตกลับเข้าไปในจวน และเรียกพระเยซูเจ้ามาถามว่า “ท่านเป็นกษัตริย์ของชาวยิวหรือ” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่านถามดังนี้ด้วยตนเอง หรือผู้อื่นบอกท่านถึงเรื่องของเรา” ปีลาตตอบว่า “ข้าพเจ้าเป็นชาวยิวหรือ ชนชาติของท่าน และบรรดาหัวหน้าสมณะมอบท่านให้ข้าพเจ้า ท่านทำผิดสิ่งใด” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “อาณาจักรของเรามิได้มาจากโลกนี้ ถ้าอาณาจักรของเรามาจากโลกนี้ ผู้รับใช้ของเราก็คงจะต่อสู้เพื่อมิให้เราถูกมอบให้ชาวยิว แต่อาณาจักรของเราไม่ได้เป็นของโลกนี้” ปีลาตจึงถามพระองค์ว่า “ถ้าเช่นนั้น ท่านเป็นกษัตริย์ใช่ไหม” พระเยซูเจ้าตรัสตอบว่า “ท่านพูดว่าเราเป็นกษัตริย์นั้นถูกต้องแล้ว เราเกิดมาเพื่อเป็นกษัตริย์ เรามาในโลกนี้เพื่อเป็นพยานถึงความจริง ผู้ใดอยู่ฝ่ายความจริงก็ฟังเรา”
(ยอห์น 18:33ข-37)








วันพุธที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2566

ข้อคิดรำพึงจากนักบุญ


“ความเชื่อมั่นของเราในพระเจ้าต้องตั้งอยู่บนความดีอันไม่มีขอบเขตของพระองค์,ในฤทธิ์อำนาจแห่งพระมหาทรมานและการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูคริสต์  โดยมีเงื่อนไขคือ เราต้องรักษาและตระหนักถึงปณิธานอันแน่วแน่ที่จะเป็นของพระเจ้าทั้งครบและละทิ้งตนเองในทุกสิ่งโดยไม่สงวนสิ่งใดไว้สำหรับตนเอง,แต่ไว้วางใจในพระาณเอื้ออาทรของพระเจ้าเท่านั้น  ข้าพเจ้าขอบอกว่าเราต้องไม่เพียงแต่รู้สึกปรารถนาปณิธานนั้น  แต่เราต้องมีปณิธานนี้และตระหนักถึงสิ่งนี้ในตัวของเราเอง  เราต้องไม่กังวลกับสิ่งที่เรารู้สึกหรือไม่รู้สึก  เพราะส่วนใหญ่ของความรู้สึกและความพึงพอใจของเรานั้นเป็นเพียงการเคลื่อนไหวของความรักตนเอง  ในการละทิ้งและไม่สนใจต่อสิ่งอื่นทั้งหมดนั้น,เราจะต้องไม่มีความปรารถนาใดที่ขัดต่อพระประสงค์ของพระเจ้า  เราจะต้องไม่ละไปจากพระทัยดีของพระองค์  เพราะสิ่งเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง  คุณธรรมของการละทิ้งและไม่สนใจต่อสิ่งอื่นนั้นอยู่ในขอบเขตที่สูงขึ้นไปของจิตวิญญาณของเรา  สำหรับส่วนลึกที่สุดของจิตใจนั้น,เราไม่จำเป็นต้องไปทำอะไรกับมัน,จิตใจของเราต้องอยู่ในสันติและไม่ใส่ใจต่อสิ่งที่ธรรมชาติเบื้องล่าง(เนื้อหนัง)ปรารถนา  เราต้องน้อมรับน้ำพระทัยจากเบื้องบนและเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์—ไม่ว่าสิ่งนี้อาจนำมาซึ่งสิ่งใดก็ตาม มีน้อยคนนักที่จะมาถึงจุดสูงสุดของการละทิ้งตนเองอย่างสมบูรณ์  กระนั้นก็ตาม,เราทุกคนต้องมุ่งไปสู่สิ่งนี้,ด้วยมาตรการเล็กๆน้อยๆของแต่ละคน”

—นักบุญฟรังซิส เดอ ซาลส์,

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น